YAKITORI

YAKITORI ( ยากิโทริ )

YAKITORI ที่มาและความสำคัญ ความสำคัญ ยากิโทริ ที่มาและความสำคัญ ทุกคนอาจจะไม่ชินกับคำว่า ยากิโทริ มากนักเท่าไหร่ แต่ถูกปากสำหรับคนไทยมาก เพราะอาหารย่าง ๆ เป็นไม้เสียบ ที่ใช้วัตถุดิบเช่น เนื้อหมู ไก่ แล้วจุ่มกับซอสที่เป็นสูตรลับในของทางร้าน และวิธีรับแระทานอย่างถูกวิธี ว่าจะต้องเริ่มทานยังไงถึงจะถูกวิธีของฉบับ ของยากิโทริ


ยากิโทริ จะมีการถูกเปรียบเทียบที่ให้ความคล้ายคลึง กับอาหารของไทยประเภทย่างไม้ หรือไกย่างเสียบไม้ แล้วย่างบนเตาถ่านนั้นเอง ซึ่งไก่ที่เสียบไม้นั้น จะมีการหั่นให้พอดีคำ แล้วนำไปย่างให้สุก และปรุงรสชาติเล็กน้อย ซึ่งในปัจจุบันร้านขาย ยากิโทริ มีมากขึ้นเรื่อย ๆ ร้านอาหารประเภทนี้จะมีอยู่มากมายในตอนนี้ เพราะทำง่ายมาก รับประทานอาหารประเภทนี้ต้องทานคู่กับ เครื่องดื่มแบบเบียร์ อาจจะไม่ซับซ้อนเท่าไหร่มากนักของการทาน


ไม่ใช่แค่นักท่องเที่ยวที่ให้ความสนใจในการรับประทานอาหาร ประเภทยากิโทริ คนทั่วโลกหันมาให้ความสนใจมากขึ้นในปัจจุบัน เพราะเป็นอาหารที่หารับประทานได้ง่าย และไม่ยุ่งยาก มักจะนิยมขายกันริมถนน หรือจุดสถานีแต่ละที่ของแต่ละที่  แต่ละร้านจะมีจุดที่แตกต่างมากของรสชาติของอาหาร


YAKITORI ( ยากิโทริ ) ที่มาความสำคัญ

กว่าจะมาเป็น ยากิโทริ ของญี่ปุ่นได้นั้น คือต้องมีการเตรียมวัตถุดิบให้พร้อม และเนื้อสุตว์ต้องหั่นพอดีคำเสมอ และทาด้วยซอสที่เป็นสูตรลับของทางร้าน หรืออาจจะโรยด้วยเกลือ เพื่อเป็นการเพิ่มรสชาติที่กลมกล่อนมากขึ้น  เพื่อรับประทานให้ง่ายมากขึ้นเรื่อย ๆ

กว่าจะเป็น YAKITORIยากิโทริ จะมีความแตกต่างมาก ขึ้นอยู่ในแต่ละร้าน หรืออาจจะมีสูตรลับในแต่ร้านไม่เหมือนกัน อาทิเช่น เตาย่าง บางร้านอาจจะใช้เป็นเตาย่างแบบแก๊ส และบางร้านจะใช้เป็นเตาย่างแบบถ่าน เพื่อเป็นการเพิ่มรสชาติที่อร่อยมากขึ้น บางร้านอาจจะใช้เป็นถ่านของ ถ่านหินบิงโฉวทัน ( BINCHOTAN ) ถ่านหินที่มีคุณภาพสูงมาก ที่ผลิตจากต้นโอ๊ค UMAMEGASHI เป็นตัวถ่านที่ให้ความร้อนที่แรงกว่า ถ่านหินปกติทั่วไปนั้นเอง เพื่อเป็นการห่อหุ้มน้ำที่จุ่มซอสไก่ไว้ ให้ความชุ่มฉ่ำมากขึ้น  และความโดดเด่นมากขึ้นเรื่อย ๆ

ยากิโทริ  แปลจากภาษาญี่ปุ่น คืออะไร

ยากิโทริ แปลมาจากคำของญี่ปุ่น ที่มีการผสมผสานกันออกมาเป็นคำว่า ยากิ ( 焼き) ที่มีความหมายว่า ย่าง และคำว่า โทริ ( 鳥 )  ที่ความหมายว่า ไก่ ซึ่งรวมคำกันมาว่า ไก่ย่าง หรือไก่เสียบไม้

นอกจากคำว่า ยากิโทริ มักจะเจอคำอื่น ๆ ในเมนูที่เราอาจจะคุ้นเคย และเจอกันไม่บ่อยนัก เช่น ยากนิคุ (  焼肉 ) ซึ่งมาจากคำว่า นิคุ ( 肉 ) ซึ่งจะแปลออกมาจากคำว่า เนื้อ หรืออาจจะเรียกว่า เนื้อย่าง หรือเป็นอาหารปิ้งย่าง ที่หลายคนนิยมทานกันบ่อยครั้ง ส่วนคำว่า โทริ ( 鳥 )  จะมีความหมายว่า ไก่ จะปรากฏในชื่อของเมนูอาหารอื่น ๆ ส่วนมาก อาทิเช่น อาเกะโดริ ( 揚げ鶏 ) จะมีความหมายว่าไก่ทอด นั้นเอง

ชิโอะ หรือ ทาเระ จะมีความใกล้เคียงกับยากิโทริมาก แต่ชิโอะ จะใช้เกลือแทนซอส และส่วนของทาเระ จะใช้เป็นซอสบาร์บีคิวรสหวานแทน เพื่อให้รสชาติที่แตกต่างกันไป เวลาคุณสั่งอาหารมักจะมีพนักงานถามเสมอว่า รับเป็นซอสประเภทไหน มันอยู่ที่คุณชอบว่าจะเลือกรับประทานแบบไหน ที่คุณคิดว่าอาหารที่ดี สำหรับคุณ

ประเภทหลัก ๆ ของ ยากิโทริ

  • MOMO ( もも ) จะเป็นเนื้อไก่ส่วนของสะโพก หรืออาจะเป็นเนื้อไก่บริเวณน่อง หรือต้นขา จะมีเนื้อที่นุ่ม ๆ และแน่นมากของส่วนนั้น
  • KAWA ( 皮 ) เนื้อไก่ส่วนของหนังไก่นั้นเอง ที่มีหนังไก่ติดมา ย่างจนสุกและกรอบจนได้ที่
  • REDA ( レバー ) เป็นส่วนของตับไก่ คำเพี้ยนมาจากภาษาเยอรมัน หรืออังกฤษ เป็นรสชาติจะออกขม ๆ ไม่มากนัก เข้มข้น
  • NEGIMA ( ねぎま ) เนกิ ( Negi ) เป็นภาษาญี่ปุ่น นั่นคือ ต้นหอม เป็นเนื้อไก่ติดสะโพก ที่เสียบไม้สลับกับต้นหอม นั้นเอง
  • TSUKUNE ( つくね ) คือเนื้อไก่บด ที่ปรุงรสชาติพอดี แล้วมาปั้นให้เป็นรูปทรง ผสมกับผักต่าง ๆ หรืออาจจะเป็นกระดูกอ่อน ให้ความรู้สึกกรุบ ๆ

 

ซอสยากิโทริ วิธีทำ

หลายคนอาจจะสงสัยว่าซอส ที่ใช้ทำในยากิโทริ มันจะมีขั้นตอนที่ยุ่งยาก หรือไม่ วันนี้เรามาดูขั้นตอน และวัตถุดิบมีอะไรบ้าง และคำนวณทุนอีกด้วย

ส่วนประกอบของ ซอสยากิโทริ

  • น้ำตาล 3 ช้อนโต๊ะ
  • โชยุ 5 ช้อนโต๊ะ
  • มิริน หรือเหล้าหวานญี่ปุ่น 1 ช้อนโต๊ะ
  • เหล้าสาเกสำหรับทำอาหาร 1 ช้อนโต๊ะ

ขั้นตอนการทำ

  • นำส่วนผสมทั้งหมด ผสมรวมากัน แล้วน้ำไปเคี่ยว ใช้ไฟอ่อน เมื่อส่วนผสมเข้าที่แล้วจะมีข้น ๆ หน่อย ๆ
  • เมื่อได้ซอสได้ที่แล้ว นำเนื้อไก่ หรือวัตถุดิบที่เราเตรียมไว้ มาหมักกับซอส 30 นาที
  • หากเนื้อสัตว์กับซอสได้ที่แล้ว มานำมาเสียบไม้
  • นำเนื้อที่เสียบมาย่างบนเตาย่าง ที่ไฟอ่อน ๆ และทาด้วยซอสยากิโทริ บนเนื้อสัตว์จนสุก

รสชาติของ ยากิโทริ มีการแบ่งออกมาเป็นหลักใหญ่ ๆ คือ เกลือ และรสของซอสโชยุ ที่ออกรสชาติ เค็ม ๆ หวาน ๆ ที่รสชาติจะออกไม่เหมือนกันแต่ละร้าน โดยทั่วไปเครื่องกลิ่นแรง ของซอส หรืออาจจะทานง่ายขึ้นมาก ส่วนเนื้อสัมผัสจะดีมาก

มารยาทในการรับประทาน ยากิโทริ

การรับประทานของร้านยากิโทริ ก็เทียบกับร้านของซูซินั้นเอง การรับประมานจะไม่มีอะไรยุ่งยากมากนักเท่าไหร่ แต่ก็มีกฎในการรับประทานอยู่ เพื่อเป็นการให้เกียรติตัวเอง และให้เกียรติโต๊ะข้าง ๆ อีกด้วย

ลำดับแรกในการรับประทาน ยากิโทริ คือต้องมีข้อระวังในการรับประทานมาก อาหารที่เพิ่งย่างมาใหม่ ๆ ไม่ควรจะใส่เครื่องปรุงลงไปตรงไม้ที่เพิ่งย่างมาใหม่ ๆ เช่น เกลือ หรือพริกไทย เพราะจะทำให้เสียรสชาติได้ มองในแง่ของทางร้าน อาจจะให้ชิมรสชาติที่เพิ่งย่างเสร็จใหม่ ๆ อาจจะให้ลองชิมไปสักคำ เพื่อให้เป็นความมั่นใจว่า ไม่เค็ม หรือไม่จืดเกินไป ถ้าหากว่ารสชาติไม่โอเค ก็สามารถปรุงแต่งเพิ่มได้ตามความต้องการของคุณเลย แต่ยากิโทริส่วนมากจะนิยมรับประทานกันเป็น แบบเดิม ๆ เพราะว่าได้ชิมรสชาติของยากิโทริแบบดั้งเดิม

มารยาทในการรับประทานอาหารโดยทั่วไป จะค่อนข้างไม่มีอะไรมากนัก เพราะส่วนมากจะเป็นมาตรฐานอยู่แล้ว เป็นการแบ่งอาหารให้เป็นส่วน ๆ ไม่ควรหยิบมาทั้งไม้ เพื่อเป็นการให้เกียรติแก่ผู้ร่วมโต๊ะด้วย ซึ่งคนญี่ปุ่นจะไม่ชอบทำกัน ส่วนมากจะกินไม้ต่อไม้แล้วทิ้ง แต่หลากนั่งกัน เป็นกลุ่มโต ๆ หรือกลุ่มใหญ่ ๆ อาจจะเอาไม้เสียบออก เพราะทานได้ง่ายขึ้นมาก