DONBURI

DONBURI ดงบุริ อาหารแดนญี่ปุ่น อาหารจานเดียวที่มีหน้าท็อปปิ้งที่ดี ที่เหมาสมกับการรับประทานแบบคนเดียว หรือทาน 2 คน ขึ้นไป เพราะการเดินทางแต่ละครั้ง นับจะเป็นความสะดวกสบายมากกว่า และอาหารก็เป็นส่วนประกอบหลัก ๆ ที่จะขาดไม่ได้ เพราะกองทัพต้องเดินด้วยท้อง กินแล้วถึงจะมีแรงเดินทางต่อไป และอาหารที่อร่อยต้องมาถึง รสชาติ วัตถุดิบที่สะอาด และสดใหม่ตลอดเวลา

 

เพราะอาหารที่อร่อยจะทำให้ ผู้คนอารมณ์ดี และ ทริปท่องเที่ยวจะดีมากขึ้นเรื่อย ๆ  ทำให้เพลิดเพลินกับสิ่งรอบข้าง ประเทศญี่ปุ่นมีอาหารพื้นเมือง หรืออาหารประจำถิ่นมาก ซึ่งอาหารของประเทศญี่ปุ่นจะไม่ต่างจาก บ้านเรามากนักเท่าไหร่ จำพวกอาหาร ราเมน โซบะ หรืออาจะเป็นอุด้ง และที่คุ้นเคยและรู้จักกันส่วนมากคือ ข้าวปั้น หรือซูชิ ที่มีหน้าตาต่าง ๆ ที่ทำใหผู้คนสนใจมากขึ้น อาหารแดนปลาดิบที่แสนอร่อย เมนูหม้อไฟ และอาหารประเภททอด หลากหลาย

 

อาหารดงบุริเป็นอาหาร ที่หาง่ายเพราะมีจำหน่ายตามตลาด หรือบริเวณร้านอาหารข้างทาง ที่สะดวกสบาย และสามารถทำรับประทานเองได้ ที่บ้าน และรสชาติที่อร่อย และวัตถุดิบที่หาได้ง่ายขึ้น อยู่ที่รอบตัวเอง เป็นอาหารที่จะตอบโจทย์ทางเรามาก คนประเทศญี่ปุ่นทุกวัยจะนิยมทานกัน

 

DONBURI ที่มา

ดงบุริ หรือที่รู้จักกันข้าวที่มีหน้าต่าง ๆ อยู่บนหน้าข้าวหลากหลาย เป็นอาหารประเภทจานเดียว ที่มีความคล้าย ๆ กับอาหารจานเดียวของบ้านรานั้นเอง คำว่า ดงบุริ (DONBURI) จะมีคำดั้งเดิมที่ใช้กันคือ ชามก้นลึก เพราะต้องใช้ชามที่มีรูปทรงที่ลึก และถ้วยเซริมิก หรืออาจจะทำไม้ ดินเผา

 

ในประเทศญี่ปุ่น จะมีดงบุริหลากหลายมากที่สุด แต่ก็สามารถทำออกมาเป็นดงบุริได้สวยงาม และจะเรียกท็อปปิ้ง เป็นคำว่า ดง ( Don , 丼 ) ที่จะมีคำต่อท้ายเสมอ และคนไทยเองก็จะคุ้นหูกับคำนี้ ส่วนมาก อาทิเช่น คัตสึด้ง ( Katsudon ) เป็นข้าวหมูชุปแป้งทอด และหน้าต่าง ๆ อีกมากมาย

 

ดงบุริเกิดขึ้นมาในปี ค.ศ. 1603 – 1868 แต่ก็ไม่แน่ชัดว่า เกิดขึ้นตามที่ระบุไว้หรือไม่ แต่ดงบุริเป็นอาหารประเภทที่รับประทานง่าย ๆ และชามที่จะเสิร์ฟมาเทศกาล แต่ละเทศกาล หรืออาจจะเป็นเอกลักษณ์แต่ละร้านที่มีการจำหน่าย อาหารประเภทนี้จะทำง่าย และสะดวก รวดเร็วต่อร้าน และผู้คนที่มาซื้อ จึงมีการแพร่หลายมากขึ้น ถึงในปัจจุบัน และได้มีการเริ่มรับวัฒนธรรมมากขึ้น และมีการปรับขนาดที่ใหญ่กว่าเดิม เพื่อเป็นการตอบสนองต่อลูกค้า ในกลุ่มของพวกช่างฝีมือในตอนนั้น เพื่อความสะดวกสบาย และเวลาที่มีน้อย ที่เข้ามาใช้บริการต่อร้านค้า

 

หลังจากอาหารประเภท ดงบุริ ได้มีการพัฒนามาเรื่อย ๆ จากอาหารที่ไม่มีหลากหลายหน้าตามากนักตอนนั้น กลับกลายเป็นร้อยชนิด เพราะดงบุริได้มีการผสมผสาน อาหารแนวสมัยใหม่ มาผสมผสานกับอาหารประจำถิ่น และได้ทำการปรับเปลี่ยน เพื่อให้เข้าถึงสมัย เวลา และสถานที่ และอาหารตอนนี้ก็เป็นข้าว และโปะด้วยหน้าต่าง ๆ

 

ส่วนประกอบของอาหาร ดงบุริ

ส่วนใหญ่อาหารประเภทนี้ จะประกอบด้วย 3 สำคัญหลัก ๆ คือ ข้าวสวย ท็อปปิ้ง และเครื่องเคียงที่เสิร์ฟมา เพื่อเป็นการเพิ่มรสชาติที่ดีขึ้น แต่เครื่องเคียงจะมีก็ได้ หรืออาจจะไม่มีก็ได้ ตามเมนูของทางร้าน เพื่อความสะดวกสบายในการกิน

 

ท็อปปิ้งบนข้าวของ ดงบุริ จะมีหลากหลานที่แตกต่างกันออกไป ตามความเหมาะสมในแต่ละเมนู หรือแต่ละวัตถุดิบที่ของทางร้าน หรือเครื่องปรุงที่มีความแตกต่าง รสชาติของความเข้มข้น หรือส่วนของเหลว และซอสอีกด้วย น้ำซอสที่มีการหมักดองไว้ในแต่ละร้าน และอยู่ที่ความเหมาะสมของแต่ละเมนู ที่เรียกว่า ดาชิ น้ำสต็อกปลาญี่ปุ่น ที่ปรุงรสด้วยโชยุ และมิริน เป็นส่วนประกอบหลัก ๆ ของน้ำซอส หรืออาจจะมีการปรุงรส แต่ละท่านที่ชอบเพิ่มเติมขึ้นอีก เนื้อสัตว์ หรือผักที่ปรุงในซอส เป็นรสชาติ เค็ม ๆ หวาน ๆ เพื่อตักราดบนข้าวสวยร้อน ๆ เป็นดงบุริอีกชาม

 

และเครื่องเคียงที่เสิร์ฟมาพร้อม ดงบุริ คือ น้ำซุปมิโสะ หรือ ผักดอง หรืออาจจะนำผักดองไปวางบนหน้าวัตถุดิบ นอกจากสองอย่างนี้แล้ว ยังมีเสิร์ฟด้วย นัตโตะ หรือที่เรียกกันว่า ถั่วหมักญี่ปุ่น และสาหร่าย ไข่ลวกที่รับประทานคู่กัน

 

ดงบุริวิถีแดนปลาดิบ

อาหารแบบ ไคเซกิ ( Kaiseki ) จะเหมือนตัวแทนของประเทศญี่ปุ่นดั้งเดิม จะมีความเป็นดงบุริมากกว่า ไม่ใช่วัฒนธรรมของอาหารแดนอาทิตย์โดยตรง แต่มีการประยุกต์จากความเร่งรีบของเชฟ และมีลักษณะที่คล้ายข้าว หรืออาหารราดแกง ของบ้านเรานั้นเอง คนญี่ปุ่นส่วนมากจะตักข้าวใส่ถ้วย รับประทานอาหารพร้อมหน้าพร้อมตากัน เหมือนคนไทยนั้นเอง แต่สมัยนี้ก็มีการเปลี่ยนแปลงมากขึ้นเรื่อย ๆ จะเร่งรีบไปหมด จากข้าวถ้วยในชามโต ๆ ก็กลายเป็นชามใคร หรือชุดใครชุดมันนั้นเอง

 

คนประเทศญี่ปุ่นจะมีความคุ้นเคย และผูกพันกันมากกับอาหารประเภทนี้ หรืออาหารที่ใกล้เคียงดงบุริ เด็กญี่ปุ่นส่วนมากจะมีการ จะมีการแวะซื้อขนมปัง หรือช่วงพักกลางวัน จะมีข้าวมารับประทานกัน ข้าวที่แม่ทำมาให้จากที่บ้านนั้นเอง จะประกอบด้วยข้าว และกับข้าว  จะมีความใกล้เคียงดงบุรินั้นเอง อาหารที่เตรียมมาจากบ้านคือ เบนโตะ ที่มีลักษณะคือ ข้าว กับข้าว และผักผลไม้ นั้นเอง

 

เห็นได้ชัดว่า การรับประทานดงบุริจะเป็นที่นิยมมาก และสามารถรับประทานได้ทุกที่ ทุกเวลา แม้ธุรกิจในฟาสฟู้ด ดงบุริก็เหมือน แมคโดนัลด์ หรืออาจจะเป็น KFC เป็นต้น ยกตัวอย่างอาหารประเภทดงบุริ มีดังนี้

 

  • ข้าวหน้าทะเล ( Kaisen – Don )
  • ข้าวหน้าหมูทอด ( Katsu – Don )
  • ข้าวหน้าเทมปุระ ( Ten – Don )
  • ข้าวหน้าปลาไหล ( Una – Don )
  • ข้าวหน้าปลาดิบ ( Kaisen – Don )
  • ไคเซนด้ง ( Kaisendon , 海鮮丼 ) หรือ ข้าวหน้าปลาดิบรวม
  • ข้าวหน้าไข่ปลาแซลมอน ( Ikura – Don )
  • ข้าวหน้าเนื้อวัว ( Gyuu – Don )
  • คัตสึด้ง ( Katsudon , カツ丼 ) หรือ ข้าวหน้าหมูชุบแป้งทอด
  • แซลมอนด้ง ( Salmondon, 鮭丼 ) หรือ ข้าวหน้าปลาแซลมอน
  • บูตะด้ง ( Butadon , 豚丼 ) หรือ ข้าวหน้าหมู

 

 

ทั้งหมดนี้คือ ดงบุริ DONBURI ที่เป็นที่นิยมของชาวประเทศญี่ปุ่น และข้าวหน้าตาต่าง ๆ จะขึ้นอยู่วัตถุดิบ หรือวัตถุดิบในท้องถิ่นตอนนั้น และตามเทศกาล หรือฤดูกาลของประเทศญี่ปุ่นด้วย สามารถทำรับประทานเอง และรสชาติที่สามารถกำหนดเองได้ ตามฝีมือเราเองได้ และมีหลากหลายเมนูมาก ที่มีไว้ให้คุณเลือกรับประทาน